วันพุธที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

causative form

        นี่เป็นที่มาของการนำประโยค causative form มาใช้ ซึ่งมีหลักให้ท่องง่ายๆ คือ
 have something done และ have someone do something

1) have something done            ใช้บอกว่าประธานให้คนอื่นทำอะไรให้ แต่ไม่ได้บอกว่าบุคคลนั้นเป็นใคร เช่น 

           I will have the house renovated soon. (ฉันจะให้บุคคลอื่นปรับปรุงบ้านให้ใหม่เร็วๆ นี้)
           He is having his car cleaned.  (เขากำลังให้บุคคลอื่นล้างรถให้)
           She had the broken windows fixed. (ในอดีตเธอได้ให้บุคคลอื่นซ่อมหน้าต่างที่พังให้)
           * ใช้ get แทน have ได้ทั้งหมด
           จะเห็นได้ว่ากริยาแท้ในประโยคเหล่านี้คือ have มันจึงสามารถถูกผันได้ ส่วน done ก็คือกริยาไม่แท้ในรูป past participle (ช่อง 3) ซึ่งจะคงรูปอยู่อย่างนี้ตลอด

2) have someone do something            ใช้บอกว่าประธานให้คนอื่นทำอะไรให้ โดยระบุว่าบุคคลนั้นเป็นใคร เช่น 

           I will have him renovate my house. (ฉันจะให้เขาปรับปรุงบ้านให้ใหม่)
           He is having his friend clean his car. (เขากำลังให้เพื่อนของเขาล้างรถให้)
           She had the maintenance staff fix the broken windows. (ในอดีตเธอได้ให้เจ้าหน้าที่ซ่อมแซมซ่อมหน้าต่างที่พังให้)
          
 *ใช้ let แทน have ได้
           *ใช้ make แทน have ได้แต่ความหมายจะกลายเป็นบังคับให้ใครทำอะไรให้

Phrasal verbs หรือ two-word verbs

     คือ การใช้คำกริยาที่ปกติแล้วมีความหมายอย่างหนึ่ง แต่ส่วนประกอบ เมื่อ verb+ preposition or particle มารวมกันเป็น Phrasal verbs แล้ว อาจจะทำให้เกิดความหมายใหม่ขึ้นมาซึ่งอาจจะไม่มีเค้าความหมายของคำกริยาเดิมเลย นิยมใช้กันมากในภาษาอังกฤษ
หลักสำคัญในการใช้ Phrasal Verbs หรือ Two-Word Verbs
1.เมื่อไม่มี direct object ต้องวาง adverb ไว้ติดกับ verb เช่น
   - please come in.
   - Don't give up, whatever happens.

2. เมื่อมี object pronoun เช่น him, her, it, them, me, us, เป็น direct object ต้องวาง object เหล่านี้ไว้หน้า adverb เช่น
   - I can't make it out. (right)
   - I can't make out it.(wrong)

3. เมื่อมี noun เช่น book , pen , houses , etc.เป็น direct object จะวาง noun ไว้หน้าหรือหลัง adverb ก็ได้        (verb +adverb +noun) หรือ (verb +noun +adverb) เช่น
   - Turn on the light.  หรือ  - Turn the light on.

4. ตามข้อ 3 ถ้า object เป็นคำยาว เช่นมี object clause ขยายต้องวางobject ไว้หลัง adverb เช่น
   - He gave away every book that he possesed. (right)
   - He gave every book that he possesed away. (wrong)


5. ในประโยคอุทาน (exclamatory Sentences)ให้วาง adverb ไว้หน้าประโยคยืดหลักดังนี้
   5.1 ถ้าประธานเป็น noun เอากริยาตามมาได้เลย เช่น
      -Off went john! = John went off.
   5.2 ถ้าประธานเป็น pronoun ใหัใช้แต่ adverb ไม่ต้องใช้ verb เช่น
      -Away they went ! = They went away. อ่านต่อ...